ศูนย์การจัดการและบ่มเพาะธุรกิจ (Business Incubation and Management Center)
โครงการศูนย์ การจัดการและบ่มเพาะธุรกิจ จัดตั้งขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่ส่งเสริมให้นำศักยภาพที่มีอยู่ในตัวเรา ทุกคนออกมาใช้เชิงสร้างสรรค์ (ตามแนวคิด Diamond Model) รวมถึงการจัดการให้กับธุีรกิจขนาดย่อย โดยมุ่งหวังให้สมาชิก เป็นนักธุรกิจมีศักยภาพ ดุจดั่ง เพชร (Diamonds Are Forever)

ธุรกิจค้าปลีก แบบบุคคล (ขายตรง-B2C)

ธุรกิจขายตรงแบบการตลาดบอกต่อ (Referral Marketing)
MGM (Member Get Member Campaign)

เทคนิคการสร้างยอดขาย ของคนไม่ชอบขาย
การเป็นทั้งผู้ให้ และการผู้รับ
หลักการธรรมชาติคือหลักแห่งการทำงาน ได้แก่
จุดเริ่มต้น จะดีมากเลย หากเราสามารถรู้ได้ว่า ลูกค้าที่เราจะพบนั้น มาจากแหล่งไหน หรือได้รับการแนะนำบอกต่อจากใคร และดูว่า ลูกค้าคนนี้ เป็นลูกค้าชั้นดี หรือมีสังคมแบบไหน เพื่อที่เราจะได้ต่อยอด เพราะการได้ลูกค้าชั้นดีจะได้ต่อไปเรื่อย ๆต่อเนื่อง

การทำงานเป็นธรรมชาติ เดินตามขั้นตอน

1. สร้างความสัมพันธ์ในสังคมของเราด้วยมิตรไมตรี (Friendly Relationship) และ แนะนำสิ่งดีๆ (สินค้า) ให้กับเพื่อนใหม่

2. สร้างเครดิตตัวเรา พร้อมๆกับแนะนำสิ่งที่ดีให้กับเพื่อน(ผู้ใช้) และ สำหรับนักธุรกิจให้เชิญเพื่อนนักธุรกิจ 2คนสมัครสมาชิกเพื่อสานธุรกิจร่วมกัน ในรายการ MGM (Member Get Member Campaign)

3. MGM จะเปลี่ยนเพื่อนให้เป็นทั้งผู้ให้(แนะนำสิ่งดีๆ)และผู้รับ(ผลกำไร)อันนำไปสู่ สังคมสัมพันธภาพที่ดี(Social Relationship)
o สิ่งสำคัญที่สุดรายการMGM คือการรักษามาตรฐาน และคุณลักษณะของสินค้าให้ได้ในระดับสูงสุด เราสามารถดูแลความคาดหวังของลูกค้า(เพื่อน) ให้เยี่ยมยอดด้วยคุณภาพสินค้าระดับของเรา เพราะหากมีปัญหาเกิดขึ้น คนที่เสียไม่ใช่แค่เราคนเดียว แต่คือเพื่อนที่ร่วมสานธุรกิจกับเราด้วย
o การแนะนำบอกต่อ ของเราในลักษณะนี้ ถือเป็นการ refer แบบ ไม่ได้มีรูปแบบอะไร การแนะนำต่อ(Refer) คือการสร้างลูกค้าใหม่ให้เพื่อน ส่วนใหญ่จะไม่เน้นที่ผลตอบแทน หรือ ถือว่าผลตอบแทนที่ได้เป็นค่าขนม โดยมาก 90% จะเป็นการทำเพราะเห็นฝีมือตัวเอง ทำแล้วมันส์มากกว่า การได้สิ่งตอบแทน (เหมือนแนะให้ลองไปชิมร้านอร่อย)

การเป็นผู้ให้และผู้รับ คือ เราและเพื่อนๆในธุรกิจได้ผลกำไรทั้งทางการเงินและได้มิตรภาพ โดยการเข้าร่วมรายการ MGM (Member Get Member Campaign)






กลยุทธ์การตลาด
Referral Marketing การตลาดแบบบอกต่อ

จุดเล็กๆของการเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่
นักขายรถยนต์ที่มีชื่อปรากฏอยู่ในกินเนสส์บุคส์เวิลด์ออฟเรคคอร์ดอย่าง โจ จิราด (Joe Girard) ได้กล่าวไว้ว่า การที่เขาสามารถขายได้เป็นอันดับหนึ่งในอเมริกาหลายปีติดต่อกันจนหนังสือกินเนสส์บุคส์ได้จัดอันดับให้เขาเป็นพนักงานขายรถที่ขายได้มากที่สุดในโลกนั้น กลยุทธ์ทางการตลาดที่สำคัญที่เขาได้ใช้อยู่อย่างสม่ำเสมอคือ

“การให้ลูกค้าหรือคนที่เขารู้จักนั้น “บอกต่อ” เกี่ยวกับตัวเขาหรือรถยนต์ที่เขาขาย”



การตลาดบอกต่อ คืออะไร
ระบบการแนะนำบอกต่อปัจจุบันกลายเป็นธุรกิจกันไปแล้ว ซึ่งเรียกว่า Referral Marketing (การแนะนำต่อ) หรือ Buzz Marketing ในต่างประเทศมีองค์กรหลายแห่งได้ใช้การบอกต่ออย่างเป็นรูปแบบในการเพิ่มยอดขายและขยายงานของบริษัทของพวกเขาและมีกระบวนการทำงานกันอย่างเป็นระบบ หรือ เป็นการจับธุรกิจ 2 ธุรกิจที่เอื้อกันมาให้เจอกันเป็นคู่พันธมิตร



ความเงียบที่ทรงพลัง
ในบ้านเราการให้ความสำคัญต่อ “การบอกต่อ” นั้นเริ่มที่จะได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ปัญหาหนึ่งของการบอกต่อคือ เราจะวัดจำนวนของการบอกต่อได้อย่างไร บางคนก็กล่าวว่าการบอกต่อนั้นมีอัตราส่วน 1:10 คือ ลูกค้า 1 คนจะบอกต่อไปยังคนอื่นๆ อีก 10 คน ส่วนบางตำราก็ว่า 1:20 แม้กระทั่ง 1:150 ในกรณีของโจ จิราด โจเชื่อว่าลูกค้า 1 คนจะบอกต่อไปยังลูกค้าอื่นๆ อีกถึง 150 ตัวเลขที่เขาได้มานั้นมาจากการสังเกตุของเขาเอง



ตัวอย่างจริง ของการ “บอกต่อ”
ปรากฏการณ์ของคุณป้าชาวอังกฤษ วัย 47 ซูซาน บอย (Susan Boyle) ก็ช่วยตอกย้ำถึงอำนาจของการบอกต่อผ่านออนไลน์ ว่ามันยิ่งใหญ่อย่างที่ใครๆ หลายคนคาดไม่ถึง... ป้า Susan กลายเป็นคนดังระดับโลกในชั่วสัปดาห์เดียว เพราะวิดีโอการประกวดร้องเพลงที่เธอเข้าร่วม ในรายการ Britain's Got Talent ในเพลง I dreamed a dream ถูกนำขึ้นให้ได้ฟังกัน ผ่าน www.youtube.com


Diamonds Are Forever